สหยานยนต์ค้ารถมือสอง

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555


สหยานยนต์ค้ารถมือสอง
          
ประวัติความเป็นมา
         บริษัทสหยานยนต์ค้ารถมือสอง จำกัด  จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่  31 มากราคม  พ.ศ.2541  เพื่อจำหน่ายรถยนต์มือสองในราคาถูก  โดยบริษัทของเรามีรถมือสองจำนวนมากมายหลายยี่ฮ้อ  โดยลูกค้าสามารถเข้ามาดูหรือสั่งจองสินค้าและเปรี่ยบเทียบราคาหรือสภาพของแต่ละคัน รถของเรามีกรรมสิทธิ์การโอนที่ถูกต้องตามกฏหมาย  และบริษัทของเรายังมีบริการซ่อมบำรุงหลังการขาย  เพราะฉะนั้นจึงวางใจได้ที่จะใช้บริการบริษัทของของเรา


นโยบายบริษัท
บริษัทฯ มีการกำหนดนโยบาย ดังนี้
"เน้นคุณภาพรถ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณภาพเพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด"
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของนโยบาย เรามุ่งมั่นที่จะ

1.  ศึกษาและทำความเข้าใจความต้องการและ หรือความคาดหวังของลูกค้า

2. ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่นำเข้า ปรับปรุง และก่อนส่งมอบให้ลูกค้าให้ 
    มั่นใจว่าครบตามข้อกำหนดที่ระบุไว้

3.  พัฒนาการบริหารงานในองค์กร ด้วยความเอาใจใส่เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีถึงลูกค้า

4.  พัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยการฝึกอบรมและส่งเสริมให้ความรู้ที่ถูกต้อง


นโยบายด้านคุณภาพ
   สู่ ความเป็นผู้นำด้านการขายรถยนต์มือสอง โดยการส่งสินค้าที่มีคุณภาพ
เข้าสู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย 

รถยนต์มือสองของเราผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดจากพนักงานมากด้วย 
ประสบการณ์ของเรา  จนมั่นใจได้ว่าสินค้าที่จะส่งถึงมือลูกค้าจะมีความ
ปลอดภัย
         วิสัยทัศน์
"
เน้นคุณภาพรถ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณภาพเพื่อให้ลูกค้า
ได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด
"
 
การดำเนินงานของธุรกิจโดยรวม
     รับสมัครสมาชิกเข้าร่วมทำธุรกิจ
     รับสมัครผู้บริหารคลังสินค้า
     รับสมัคพนักงานที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานกับเรา
     บริหารองค์กรด้วยธุรกิจเครือข่าย
     บริการจำหน่ายรถยนต์
     จัดหารถยนต์ให้ทันกับความต้องการของลูกค้า
                                                         
ผังการจัดการองค์กร
 
หน้าที่ ปัญหา และการแก้ปัญหาของแต่ละแผนก มีดังนี้
ฝ่ายงานบริหารทั่วไป
แผนกบัญชี  มีหน้าที่ดังนี้
      - ควบคุมดูแลงานด้านการบริหารงานบัญชีและการเงิน 
      - ควบคุมการกระทบยอดทางด้านงบการเงิน วิเคราะห์งบการเงินในแต่ละเดือน 
      - ควบคุมดูแลจัดทำงบลงทุน งบกำไรขาดทุน งบดุล และปิดงบการเงิน  
      - วางแผนการทำงานและควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยงาน
      - เบิกจ่ายรายจ่ายที่จัดสรรแล้วให้แก่แผนกต่างๆ
         -  ควบคุมอนุมัติรายจ่ายให้เป็นไปตามงบประมาณที่ได้จัดสรรไว้

ปัญหาคือ ยอดเงินที่ได้ในแต่ละเดือนไม่ตรงกับจำนวนสินค้าที่ขายออกไป
การสรุปยอดเป็นไปด้วยความยุ่งยาก

แผนกบุคล  มีหน้าที่ดังนี้
มีหน้าที่ในการจัดการ  ดูแล  งานด้านการบริหารงานบุคคลทั้งหมด  
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับสมัครงาน
การคัดเลือกบุคลากรเข้ามาทำงาน
การดูแลเกี่ยวกับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน
การลงโทษพนักงาน
การดูแลสวัสดิการและความเป็นอยู่ของพนักงานภายในองค์กร
  เป็นต้น
ปัญหาคือ เนื่องจากพนักงานมีเป็นจำนวนมากทำให้อยากต่อการตรวจสอบดูแล
ฝ่ายปฎิบัติการ
แผนกงานขาย   มีหน้าที่ดังนี้
- ตรวจสอบความสะอาดเรียบร้อยโชว์รูมและรถโชว์ประจำวัน
- เตรียมอุปกรณ์การขายและความพร้อมด้านต่าง ๆ
- ต้อนรับลูกค้าด้วยความสุภาพ
- อธิบายรายละเอียดของสินค้าในรถรุ่นที่ลูกค้าสนใจ
- ติดตามปิดการขายตามเป้า
- ประสานงานไฟแนนซ์ให้ลูกค้ากรณีซื้อผ่อนพร้อมติดตามผล
- ประสานงานกับฝ่ายจัดส่งเพื่อส่งสินค้าให้ตรงเวลา

  ปัญหาคือ ป้ายราคาที่ติดไว้เกิดการผิดพลาดราคาไม่เป็นไปตามความเป็นจริง
ไม่รู้รายละเอียดสินค้า

แผนกการตลาด  มีหน้าที่ดังนี้
    การวิจัยรูปร่างลักษณะ  รูปแบบ และความต้องการผลิตภัณฑ์รถยนต์
ทั้งนี้หมายความว่าการตลาดจะเริ่มก่อกระบวนในการผลิต

การกำหนอราคาในระดับผู้ผลิต และระดับผู้ค้าปลีก
การขนส่งและการเก็บรักษารถยนต์ที่ผลิตแล้ว คือ ในชั้นแรกเป็นเรื่องของผู้ผลิต
    และ
ผู้ค้าปลีกในขั้นต่อมา
การโฆษณา ควรใช้สื่อตรง ได้แก่ วารสาร วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์
    หนังสือพิมพ์แผ่นป้ายโฆษณา และสื่ออื่น ๆ
การจัดเตรียมเครื่องมือที่ใช้สำหรับการขาย และสิ่งช่วยในการส่งเสริมการขาย
    ให้กับ
ตัวแทนจำหน่าย
การบริหารกิจการของตัวแทนจำหน่ายในการทำให้ผู้บริโภคได้รับการบริการที่
   ประทับใจตลอดทั้งการให้โควตาในการขาย นโยบายการขาย แผนการขายและ
    การควบคุมการขาย
การขายโดยใช้พนักงานขายที่เป็นบุคลากรของตัวแทนจำหน่ายและการเปลี่ยน
    ทะเบียนเจ้าของรถ
การช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ตัวแทนจำหน่ายในด้านสินค้าคงเหลือและการขาย
    ผ่อน
ชำระให้กับผู้ซื้อ
การเตรียมให้บริการการจองรถยนต์ เพื่อความสะดวก ความพอใจของลูกค้า  
ปัญหาคือ  ไม่รู้ว่าความว่าต้องการเป็นอย่างไรและอยากต่อการสำรวจ

ฝ่ายธุรการ
แผนกประชาสัมพันธ์  มีหน้าที่ดังนี้

                ดำเนินการประชาสัมพันธ์ทั้งภายนอกและภายในของบริษัท รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าวิเคราะห์และพัฒนาค่า CSI และนำเสนอ Graphติดตามลูกค้าทางโทรศัพท์และทางจดหมายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าที่ราบข่าวสารของบริษัท

ปัญหาคือ  การสื่อสารกับลูกค้าบางทีสื่อสารกันไม่เข้าใจ เรื่องที่ประชาสัมพันธ์ไปก็
แผนกจัดส่งสินค้า  มีหน้าที่ดังนี้
         มีหน้าที่จัดส่งสินค้าตามที่อยู่ที่ของลูกค้า ที่ลูกค้าให้ไว้กับแผนกงานขาย ต้องส่งให้ครบตามจำนวนที่สั่ง
ปัญหาคือ ส่งของไม่ตามกำหนดที่นัดไว้กับลูกค้า ของเกิดการเสียหายระหว่างทำการขนส่ง


ฝ่ายโรงงาน
แผนกรับรถ  มีหน้าที่ดังนี้
 - การนัดหมายลูกค้าที่เข้ามารับบริการรวมถึงเวลาเข้าซ่อม ประมาณเสร็จ ความพร้อมของอะไหล่
 -  ออกใบสั่งซ่อมตามความต้องการของลูกค้าอย่างครบถ้วน
 -  ติดตามคืบหน้าของงานที่ลูกค้าแจ้งและแจ้งลูกค้าให้ทราบเป็นระยะ
 -  ตรวจสอบงานที่ได้ซ่อมในขั้นสุดท้ายให้เรียบร้อนก่อนส่งมอบ
 -  อธิบายรายละเอียดงานซ่อมให้แกลูกค้าทราบและแนะนำการบริการครั้งต่อไป           
ปัญหาคือ การนัดหมายกับลูกค้าอาจจะคลาดเคลื่อน ใบสั่งของที่ลูกค้าสั่งอาจเขียนไว้ไม่ถูกต้อง
แผนกช่างซ่อมบำรุง  มีหน้าที่ดังนี้
รักษาและซ่อมบำรุงอะไหล่ วัสดุภัณฑ์ ให้อยู่ในสภาพ เรียบร้อยใช้งานได้ดีอยู่เสมอ 
-  ให้บริการและบำรุงรักษาระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ 
-   ซ่อมรถตามความต้องการของลูกค้าและเลือกใช้อะไหล่ตามความต้องการของลูกค้า

ปัญหาคือ ไม่รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไหล่แบบไหน เลือกใช้อะไหล่ผิดประเภท
แผนกอะไหล่  มีหน้าที่ดังนี้
        ดูแลบุคลากรในหน่วยงานให้มีวินัย และมีความรู้ความสามารถในการทำงาน พัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน ดูแลเกี่ยวกับรายงานต่าง ๆ  ดูแลมาตรฐานของ TEAD และ ทำงานให้ได้มาตรฐานของบริษัทฯ ดูแลเกี่ยวกับการสั่งอะไหล่
เพื่อปรับเปลี่ยนในส่วนที่เสียของรถ

ปัญหาคือ บางทีอะไหล่หมดแต่ไม่รู้ว่าหมด เลยทำให้สินค้าขาดสต็อก สั่งไม่ทัน และไม่รู้ว่าอะไหล่ชิ้นไหนออกไปแล้วบ้างเหลืออะไหล่ในสต็อกอีกกี่ชิ้น

                  ปัญหาระหว่างแผนกที่เกี่ยวข้องกัน
ปัญหาระหว่างแผนกซ่อมบำรุงกับแผนกอะไหล่
      แผนกซ่อมบำรุงไม่รู้ว่ามีอะไหล่ตัวไหนอยู่ในสต็อกบ้าง มีสีอะไรบ้าง มีแบบไหน แผนกอะไหล่ไม่รู้ว่าช่างซ่อมบำรุงต้องใช้อะไหล่ตัวไหน จำนวนเท่าไร
ปัญหาระหว่างแผนกงานขายกับแผนกบัญชี
         แผนกบัญชีไม่รู้ว่าขายอะไหล่ออกไปเป็นเงินเท่าไรแล้ว จะสรุปยอดสินเดือนก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้รับข้อมูลจากแผนกการขาย
ปัญหาระหว่างแผนกจัดส่งสินค้ากับแผนกขาย
         แผนกจัดส่งสินค้าไม่รู้ว่าต้องส่งสินค้าอะไรบ้าง จำนวนกี่ชิ้น ไปที่ไหน แล้วลูกค้าที่รับเป็นใคร
ปัญหาระหว่างแผนกบัญชีกับแผนกรับรถ 
แผนกบัญชีไม่รู้ว่ายอดจำนวนรถยนต์ที่รับเข้ามามีจำนวนกี่คัน รุ่นอะไร บ้าง
ปัญหาระหว่างแผนกบัญชีกับแผนกช่างซ่อมบำรุง 
แผนกบัญชีไม่รู้ว่ายอดจำนวนรถยนต์ที่รับเข้ามามีจำนวนกี่คัน รุ่นอะไร ต้องใช้อะไหล่อะไรบ้างรวมไปถึงค่าซ่อมบำรุงด้วย
ปัญหาระหว่างแผนกบัญชีกับแผนกอะไหล่
     แผนกบัญชีไม่รู้ว่ายอดจำนวนอะไหล่ที่แผนกอะไหล่ใช้ไปและสั่งเข้ามามีจำวนกี่ชิ้น
ปัญหาระหว่างแผนกบัญชีกับแผนกจัดส่งสินค้า
       แผนกบัญชีไม่รู้ว่ารายการสินค้าที่ต้องทำการจัดส่งให้กับลูกค้ามีจำนวนเท่าไรและมีรายรับเท่าไรในแต่ละเดือน


ปัญหาระหว่างแผนกบัญชีกับแผนกขาย
แผนกบัญชีไม่รู้ว่ายอดขายในแต่ละเดือนของแผนกขายมีรายได้เท่าไรและขายรถรุ่นอะไรจำนวนกี่คัน สีอะไรราคาเท่าไรบ้าง
ปัญหาระหว่างแผนกบัญชีกับแผนกบุคล 
แผนกบัญชีไม่รู้ว่าค่าจ้างที่ต้องจ่ายให้พนักงานในแต่แผนก เป็นจำนวนเงินเท่าไรเพราะแต่ละแผนกให้ค่าจ้างพนักงานไม่เหมือนกัน

ขอบเขตของการพัฒนาระบบ
        1. ระบบงานขาย
        2. ระบบงานบัญชี
        3. ระบบงานธุรการ
        4. ระบบโรงงาน
 
การประเมินความต้องการของบริษัท  
ตารางแสดงรายการ การทำงาน (Functions) หรือกิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมดขององค์กร

 
แสดงการจำแนกกิจกรรม(Activites)  ของหน้าที่ของการทำงาน (Functions) ในบริษัท
              Business Functions           Supporting Functions


                 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างหน้าที่และหน่วยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง 
(Function-to-Data Entities)


ตารางที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างหน้าที่และหน่วยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 1 การค้นหาและเลือกสรรโครงการ (Project Identification and Selection)
1.  ค้นหาโครงการที่ต้องการพัฒนาจากการค้นหาโครงการของแผนกต่าง ๆ  สามารถรวบรวมโครงการพัฒนาระบบได้ทั้งหมด  3โครงการดังนี้

จำแนกและจัดกลุ่มโครงการที่ค้นหามา
เมื่อนำโครงการทั้ง 3 มาเปรียบเทียบกับวัตถุประสงค์ของบริษัทเพื่อค้นหาโครงการที่ตรงตามวัตถุประสงค์มากที่สุด  และสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของบริษัทได้  ดังรายละเอียดของตารางต่อไปนี้

 
ตารางเมตริกซ์  Information System –to-Objectives

จาก การพิจารณาโครงการทั้ง  3 โครงการตามวัตถุประสงค์  ขนาดโครงการ   และผลประโยชน์  จะพบว่าโครงการที่ตรงตามวัตถุประสงค์  และให้ผลประโยชน์แก่บริษัทมากที่สุดคือ  โครงการพัฒนาระบบการขาย จึงปฏิเสธโครงการทั้ง   2 ระบบ  ถึงแม้ว่าจะให้ผลประโยชนและสามารถนำบริษัทไปสู่เป้าหมายได้

 การเสนอแนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งาน
 แนวทางเลือกเพื่อนำระบบใหม่มาใช้งาน โดยจะบอกถึงรายระเอียดของระบบที่จะพัฒนามีดังนี้ ระบบการขาย  ระบบบัญชี  ระบบการตลาด โดยมีแนวทางเลือกจำนวนทั้งสิน 2 ทางเลือก
      1.ซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป
      2.จ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ

                         ทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้ที่ดีที่สุด

                   การเสนอแนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งาน
ทางเลือกที่ 1 : การจัดซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูป มีรายละเอียดดังตาราง



การประเมินแนวทางเลือกที่ 1
       ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม โดยกำหนด
          เกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น
4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง



สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 1
       สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกซื้อ Software  B มาใช้งาน เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด


ทางเลือกที่ 2 : ว่าจ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ มีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้




การประเมินแนวทางเลือกที่ 2
               ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกว่าจ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ ที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้

  น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
  น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
  น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
   น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง


                                       
              สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 2
               สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบ B มาใช้งาน เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด


เปรียบเทียบแนวทางเลือกทั้ง2
           ผลจากการพิจารณาแนวทางเลือกของทีมงานจากทั้งสองแนวทาง จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของผู้บริหารเพื่อพิจารณาเลือกแนวทางตามที่ได้นำ เสนอจากทีมงานพัฒนา พร้อมข้อเสนอแนะในแต่ละแนวทางเลือกหลักทั้งสอง โดยมีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้




ข้อเสนอแนะแนวทางเลือกทั้ง2แนวทาง
          แนวทางเลือกที่ 1 การจัดซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จระบบB
ข้อดี ระบบ มีความสามารถพัฒนาระบบได้ตรงตามข้อกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคและความต้องการ ของบริษัทที่ได้จัดทำไว้ราค่ามาต้นทุน/ค่าบำรุงรักษาระบบไม่สูงมากนัก
ข้อเสีย ระบบไม่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการแต่ก็ไม่กระทบองค์กรใช้ระยะเวลาในการติดตั้งและฝึกอบรมการใช้งานนาน

 แนวทางเลือกที่ 2 การว่าจ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ B
ข้อดี ระบบ มีความสามารถพัฒนาระบบได้ตรงตามข้อกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคและความต้องการ ของบริษัทที่ระบบยังมีความยืดหยุ่นในปรับแต่งได้ตามความต้องการโดยไม่กระทบ องค์กรสามารถพัฒนาไปยังอนาคตข้างหน้าได้ใช้ระยะเวลาติดตั้งและฝึกอบรมการใช้ งานน้อย
ข้อเสีย ราค่าต้นทุน/ค่าบำรุงรักษาระบบค่อนค้างสูง
ผู้บริหารเลือกแนวทางที่ดีที่สุด
           หลังจากหัวหน้าทีมงานได้เสนอแนวทางเลือก โดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบและข้อเสนอแนะแก่ทีมผู้บริหาร โดยใช้กฎเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) ดังตารางต่อไปนี้




สรุปผลการประเมินโดยทีมงานผู้บริหาร
ทางทีมงานผู้บริหารได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแนวทางการว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบ B เนื่อง จากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุดนอกจากจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงานแม้ว่าราค่าค่าติดตั้งจะค่อนค้างสูง แต่ก็มีความคุ้มค่าในการลงทุนแล้วแล้วยังสามารถพัฒนาไว้ใช้งานในระยะยาว



ขั้นตอนที่ 2
การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ

เป้าหมาย
                นำระบบสาระสนเทศเพื่อการบริหารงานขายมาใช้งานในบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า

วัตถุประสงค์
                โครงการพัฒนาระบบการสั่งจองรถยนต์มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเพื่อ วิเคราะห์  ออกแบบ  และพัฒนาให้เป็นระบบงานขายที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้  ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
ขอบเขตของระบบ
                โครงการพัฒนาระบบการสั่งจองรถยนต์ได้มีการจัดทำขึ้นโดยการว่าจ้างบริษัท B มารับผิดชอบโครงการ พร้อมกันนี้ได้กำหนดขอบเขตของระบบนี้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
·    ระบบจะต้องแบ่งการทำงานอย่างชัดเจน  แต่ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงกันได้
·    ระบบจะต้องรองรับการทำงานแบบ  Multi-User  ได้
·    ระบบจะต้องใช้งานง่ายและสะดวก
·    ระบบจะต้องเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดต่อการทำงาน 
·    ระบบจะต้องมีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
ปัญหาที่พบจากระบบเดิม
·       การเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าและการค้นหาข้อมูลของลูกค้าเกิดความซ้ำซ้อน
·       การจัดเก็บข้อมูลของสินค้าไม่เป็นระบบ
·       ข้อมูลที่ได้ไม่มีความชัดเจนและแน่นอน
·       เนื่องจากเป็นระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลอยู่ตลอดเวลาทำให้ข้อมูล 
        เกิด
ความเสียหายและสูญหายได้
·       ยากต่อการหาข้อมูล
·       การทำงานของพนักงานแต่ละฝ่ายไม่มีความแน่นอน
ความต้องการในระบบใหม่ 
                ความต้องการในระบบใหม่ที่รวบรวมมาได้  คือความรวดเร็วของระบบใหม่
   ในการทำงาน
·      สามารถเก็บ  และตรวจสอบข้อมูลลูกค้า สินค้าได้
·      สามารถเพิ่ม แก้ไข  เปลี่ยนแปลงข้อมูลของสินค้าและข้อมูลลูกค้าได้
·     ให้การบริการแก่ลูกค้าในการซื้อขายเช่น การสั่งจองสินค้า  การออกใบเสร็จ คำนวณ 
   อัตราค่าภาษีและการชำระจ่ายเงินได้
  เป็นต้น
·      สามารตรวจเช็คสินค้าที่ลูกค้าต้องการจองได้
·      การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานทุกฝ่ายเช่น บัญชี
                ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบใหม่
·  บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
·  บริษัทสามารถตัดสินใจในการจัดจำหน่ายสินค้าได้
·   บริษัทมีผลการดำเนินการที่ดีขึ้น
·  ขั้นตอนการทำงานของระบบในบริษัทที่มีความรวดเร็ว
·  ขั้นตอนการสั่งจอง-การซื้อ-ขายรถยนต์  มีความถูกต้อง ชัดเจนและรวดเร็วในการทำงาน
·  สามารถจัดเก็บข้อมูลสินค้า ทำให้การสั่งจอง-การซื้อ-ขายสินค้าได้รวดเร็วและถูกต้อง และมีเอกสารใบเสร็จยืนยันให้ลูกค้า
·  การทำงานของพนักงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสะดวกสบายในการตรวจเช็คยอดขายและสินค้าลดระยะเวลาในการทำงาน
         แนวทางในการพัฒนา
          การพัฒนาระบบของบริษัทสหยานยนต์ค้ารถมือสอง เป็นการพัฒนาระบบในส่วนของการสั่งจิงรถยนต์และในส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น การทำงานของพนักงานในแต่ละหน้าที่ ซึ่งบางครั้งการทำงานขั้นตอนต่าง ๆ อาจจะมีเอกสารหรือข้อมูลที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ดังนั้นจึงได้มีการวิเคราะห์ระบบใหม่เพื่อความสะดวกและมีประสิทธิภาพในการทำ งาน เมื่อพิจารณาถึงขั้นตอนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับบริษัทแล้วสามารถแบ่งได้ ทั้งหมด7ขั้นตอน
 
1. การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
     2. การเริ่มต้นและการวางแผนโครงการ
     3. การวิเคราะห์ระบบ
     4. การออกแบบเชิงตรรกะ
     5. การออกแบบเชิงกายภาพ
     6. การพัฒนาและติดตั้งระบบ
     7. การซ่อมบำรุงระบบ

ขั้นตอนที่  1 การค้นหาและเลือกสรรโครงการ ( Project Identification and Selection )
               เป็นขั้นตอนในการค้นหาโครงการเพื่อพัฒนาระบบใหม่ให้เหมาะสมกับระบบเดิมหรือ ให้เหมาะสมกับองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องการ
ระบบเพื่อนำมาใช้ในการ บริหารงานในส่วนที่เกิดความบกพร่องของบริษัท  เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานขององค์กร
ดังนั้นจึงได้ยกตัวอย่างบริษัทที่ต้องการพัฒนาระบบคือบริษัทสหยานยนต์ค้ารถมือสอง ข้อมูลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น  ในส่วนของระบบที่ต้องการแก้ไขคือ

·       การสั่งจองสินค้า
·       การเช็คสินค้าที่ลูกค้าต้องการจอง
·       การจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าและข้อมูลการสั่งจองสินค้า

ขั้นตอนที่  2  การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ

เป็นขั้นตอนในการเริ่มต้นทำโครงการด้วยการเริ่มต้นจัดตั้งทีมงาน    ซึ่งเราจะต้องกำหนดหน้าที่ให้กับทีมงานแต่ละคนอย่างชัดเจนเพื่อร่วมกันสร้าง แนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งานและนอกจากขั้นตอนดังกล่าวแล้วยังมีขั้น ตอนอื่นอีกมากที่เกี่ยวข้องซึ่งเราสามารถสรุปกิจกรรมในขั้นตอนนี้ได้ดังนี้
·   เริ่มต้นทำโครงการ ก่อนเริ่มทำโครงการเราควรศึกษาระบบเดิมในการทำงานก่อน
·   กำหนดวัตถุประสงค์หรือทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้
·   วางแผนการทำงานของระบบใหม่

ขั้นตอนที่  3  การวิเคราะห์
1. ศึกษาขั้นตอนการทำงานของระบบเดิม  ดูว่าการทำงานของบริษัท  มี การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างไรและเหตุใดจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบ เดิม  และระบบที่เปลี่ยนแปลงนี้จะเปลี่ยนในส่วนของระบบการสั่งจองสินค้า
2. การรวบรวมความต้องการในระบบใหม่จากผู้ใช้ระบบ  ศึกษาหรือสอบถามข้อมูลของระบบเดิมจากพนักงานหรือผู้ใช้ระบบ

3. จำลอง แบบความต้องการที่รวบรวมได้    เมื่อเรารวบรวมข้อมูลมาได้แล้ว   ก็สามารถออกแบบจำลองดังกล่าวได้   ด้วยวิธีการใดก็ได้ที่นักวิเคราะห์ระบบนำมาใช้ในการทำงานของระบบ

ขั้นตอนที่  4  การออกแบบเชิงตรรกะ
                เป็นขั้นตอนในการออกแบบขั้นตอนการทำงานของระบบในแต่ละส่วนงานหรือแต่ละแผนก ของงาน  ซึ่งในการออกแบบระบบ  ระบบงานที่ได้ในแต่ละส่วนจะไม่เหมือนกัน  ซึ่งอาจจะมีแบบฟอร์มหรือผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเราวิเคราะห์ขบวนเสร็จเรียบร้อย แล้ว

ขั้นตอนที่  5  การออกแบบ  User Interface


  

               บริษัท สหยานยนต์ค้ารถมือสอง จำกัด   มีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เดิมเป็นแบบ LAN ดังนั้นในการออกแบบApplication ขั้น ตอนนี้ ทางทีมงานจึงเห็นควรว่า ระบบจัดซื้อ สำหรับแผนกจัดซื้อนั้นจะเป็นแบบกระจาย เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับระบบเครือข่ายเดิม (LAN) ที่มีรูปแบบเป็น Client/Server โดยจะจัดเก็บฐานข้อมูลไว้ที่เครื่องแม่ข่าย (Server) 
เช่น
1. แผนกคลังสินค้า  สามารถดูการจัดเก็บสินค้าที่ลูกค้าต้องการสินค้า บริษัทสามารถนำสินค้าไปจำหน่าย ทำให้เกิดความพึงพอใจแก่ลูกค้าและลูกค้าสามารถเช็คสินค้าที่ลูกค้าต้องการได้โดยไม่เสียเวลา

2. แผนกขาย สามารถเรียกดูข้อมูลจากระบบการขายสินค้าได้ คือ การจัดเตรียมอุปกรณ์ คำนวณสินค้า สามารถคำนวณได้รวดเร็วและว่องไวในการขายสินค้า
     3. แผนกบัญชี  สามารถตรวจดูการซื้อขายสินค้าทั้งหมด เพื่อจัดทำเป็นบัญชีรายรับ-รายจ่าย

ขั้นตอนที่   6   การพัฒนาและติดตั้งระบบ

                ขั้นตอนนี้จะนำข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ต้องการออกแบบของระบบมาทำการเขียน โปรแกรม  เพื่อให้เป็นไปตามคุณลักษณะที่ต้องการของระบบงานใหม่  อาจนำโปรแกรมที่เขียนสำเร็จรูปแล้วมาใช้งานในระบบก็ได้  หลังจากเขียนโปรแกรมแล้วเราก็ควรทำการทดลองว่าโปรแกรมใช้งานได้เหมาะสมกับ การทำงานของบริษัทหรือไม่  ซึ่งในขั้นตอนนี้มีกระบวนการทำงานดังนี้
· เขียนโปรแกรม
· ทดสอบโปรแกรม
·  ติดตั้งระบบ
·  จัดทำเอกสาร สรุปผลการทำงานของระบบ

 ขั้นตอนที่   7   การซ่อมบำรุงระบบ
อาจ จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการปรับปรุงระบบ  เพราะหลังจากได้ระบบใหม่มาแล้ว  เราก็นำเอาระบบที่ได้มานี้ทำการแก้ไขหากระบบที่ได้มาเกิดข้อผิดพลาดแผนการดำเนินงานของโครงการ

                แผนการดำเนินงานของโครงการที่ต้องการวิเคราะห์ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง  คือ ระบบการสั่งจองสินค้า  และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
                -  ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
                -  ประมาณการใช้ทรัพยากร
                -  ประมาณการใช้งบประมาณ
                -  ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน


  แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ  ระบบการสั่งจองรถ บริษัทสหยานยนต์ค้ารถ
มือสอง

ขั้นตอนการวิเคราะห์ความต้องการของระบบใหม่
(System Requirement Structuring)

จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบด้วย  DFD 
จากการวิเคราะห์ความต้องการระบบใหม่ที่รวบรวมมาได้จากผู้ใช้ระบบ โดยสามารถจำลองได้ด้วยแผนภาพกระแสข้อมูล  (Data Flow Diagram : DFD)  ได้ดังนี้
                                            
Context Diagram
ระบบการสั่งจองรถ บริษัทสหยานยนต์ค้ารถมือสอง


อธิบายการทำงานของ Context Diagram
 
     1  ลูกค้า
ข้อมูลส่วนใหญ่ที่นำเข้าสู่ระบบนั้นจะข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลการสั่งซื้อ User/password ข้อมูล สมัครสมาชิก และระบบก็จะส่งข้อมูลออกมาให้แก่ลูกค้า จะมีข้อมูลใบส่งสินค้าและใบเสร็จรับเงินรายการที่สั่งซื้อ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ
   2  ตัวแทนจำหน่าย
หาก จำนวนวัตถุดิบในศูนย์ถึงจุดสั่งซื้อ ทางศูนย์จะทำการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาจากตัวแทนจำหน่าย โดยระบบจะส่งข้อมูลออกใบสั่งซื้อสินค้า และข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลที่จะถูกส่งเข้าไปในระบบจะมีข้อมูลใบส่งวัตถุดิบและใบเสร็จรับเงิน
   3 ผู้จัดการ
ส่วน ของการนำข้อมูลออกจากระบบ ก็จะเป็นการสรุปหรือรายงานต่างๆ รายงานข้อมูลการสั่งซื้อวัตถุดิบ รายงานข้อมูลการชำระเงิน รายงานข้อมูลการขาย รายงานข้อมูลการผลิต
   4  Admin/ผู้ดูแลระบบ
ข้อมูล ที่นำเข้าสู่ระบบจะเป็นข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ข้อมูลการผลิต ข้อมูลสินค้า  และข้อมูลที่ส่งออกจากระบบก็คือ ข้อมูลการแก้ไขสมาชิก ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ข้อมูลลูกค้า

Dataflow Diagram


อธิบาย Dataflow Diagram Level 0
               จาก Context Diagram สามารถแบ่งขั้นตอนการทำงานภายในระบบออกเป็น 2 ขั้นตอน ด้วยการวิเคราะห์จากความต้องการของผู้ใช้ที่รวบรวมมาได้ สำหรับการคำนวณค่างวดเกี่ยวข้องกับรายได้ของบริษัท ดังนั้นจึงแยก Process ที่เกี่ยวข้องกับระบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
 
    1.Process 1 (การสมัครสมาชิก)
เมื่อลูกค้าทำการสมัครสมาชิกโดยกำหนดUser/Passwordของตัวลูกค้าเองเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการจัดเก็บข้อมูลการสั่งจองของลูกค้าโดยมี Adminเป็นผู้ดูแลระบบ
   2.Process 2 (การสั่งจอง)
ลูกค้าต้องทำการเข้ารหัสUser/Passwordของตัวลูกค้าเองก่อนจากนั้นระบบจะทำการหาข้อมูลของลูกค้า
เมื่อลูกค้าทำการเข้าระบบเรียบร้อยแล้วระบบจะทำการบอกรายระเอียดการจองและเงือนไขการจองแก่ลูกค้า
เมื่อลูกค้าทำการจองสินค้าระบบจะทำการค้าหาข้อมูลของสินค้าที่ลูกค้าได้ทำการจองว่ามีหรือไม่มี
เมื่อลูกค้าทำการจองสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วระบบจะทำการเก็บข้อมูลไว้ในข้อมูลการจองสินค้าของลูกค้า
   3.Process3 (การรับชำระเงิน)
เมื่อลูกค้าทำการสั่งจองสินค้าระบบจะทำการคำนวณราคาสินค้าทั้งหมดที่ลูกค้าได้ทำการสั่งจองไว้ว่าเป็นจำนวนเท่าไร
เมื่อระบบทำการคำนวณราคาเสร็จระบบจะทำการออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า
   4.Process 4(การจ่ายชำระเงิน)
เมื่อ ลูกค้าทำการสั่งจองสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วระบบจะทำการเช็คว่าลูกค้าได้ ทำการจ่ายชำระเงินเป็นจำนวนเท่าไรและยังมียอดค้างชำระอยู่อีกเท่าไรให้แก่ ลูกค้า
  5. Process  5  (รายงานการสั่งจอง)
              เมื่อผู้จัดการต้องการพิมพ์รายงานผู้จัดการจะทำการเลือกรายงานจากระบบจากนั้น Process  จะ ทำการดึงข้อมูลจากแฟ้มข้อมูลลูกค้า  โดยแฟ้มข้อมูลสินค้า  แฟ้มข้อมูลการสั่งซื้อ  แฟ้มข้อมูลการชำระเงินมาทำการประมวลผล เมื่อประมวลผลเสร็จเรียบร้อยระบบจะทำการส่งรายงานให้กับผู้จัดการ


DFD Level 1 of  Process 1 (สมัครสมาชิก)

อธิบาย  DFD Level 1 of  Process 1 (สมัครสมาชิก)

  Process  1   สมัครสมาชิกเป็นขั้นตอนการสมัคสมาชิกของลูกค้า  มีขั้นตอนการทำงานย่อยภายในทั้งหมด  3  ขั้นตอน หรือ  3   Process  ดังนี้
   1.Process 1.1 ตรวจสอบสมาชิกเป็นขั้นตอนที่ทำการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆของสมาชิกที่ทำการสมัคไว้นานแล้วหรือเพิ่งจะสมัค
       -Process จะทำการรับข้อมูลการ log in จากลูกค้าแล้ว  Process  ก็จะทำการดึงข้อมูลจากแฟ้มข้อมูลสมาชิก มาทำการประมวลผลเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูล
  2.Process 1.2 แก้ไขข้อมูลสมาชิกเป็นขั้นตอนที่ทำการแก้ไขข้อมูลของสมาชิกเมื่อสมาชิกต้องการแก้ไขข้อมูลของตัวเอง
       -Processจะทำการแก้ไขข้อมูลของสมาชิกเมื่อสมาชิกต้องการจะแก้ไขข้อมูลของตัวเองโดย Processจะทำการดึงข้อมูลเดิมมาทำการแก้ไข
  3.Process 1.3 บันทึกข้อมูลสมาชิกเป็นขั้นตอนการบันทึกข้อมูลของสมาชิกเมื่อทำการแก้ไขเสร็จแล้วหรือบันทึกข้อมูลเดิมของสมาชิก
      -Processจะทำการบันทึกข้อมูลของสมาชิกเมื่อทำการแก้ไขเสร็จแล้วนำไปเก็บไว้ในข้อมูลของสมาชิกจาจากนั้น Process จะนำข้อมูลการแก้ไขข้อมูลของสมาชิกส่งไปยัง
ผู้ดูแลระบบ

                                       
DFD Level 1 of  Process 2 (การสั่งจอง)

อธิบาย  DFD Level 1 of  Process 2 (การสั่งจอง)
  Process  2   การสั่งจองเป็นขั้นตอนการสั่งจองสินค้าของลูกค้า  มีขั้นตอนการทำงานย่อยภายในทั้งหมด  5  ขั้นตอน หรือ 5  Process  ดังนี้
  1.Process 2.1 รายการสินค้าเป็นขั้นตอนของรายการสินรถยนต์ทั้งหมดที่บริษัทมี
-Process จะทำการดึงข้อมูลของสินค้าทั้งหมดที่ลูกค้าสามารถสั่งจองได้ให้กับลูกค้า
  2.Process 2.2 สั่งจองสินค้าเป็นขั้นตอนการทำการสั่งจองรายการสินค้าของลูกค้า
-Procossลุกค้าต้องทำการใส่User/Passwordของตัวเองก่อนจะทำการสั่งจองสินค้าที่ตนเองต้องการจะสั่งจองจาก Process จะทำการดึงข้อมูลของสมาชิกมาเมื่อทำการสั่งจองเสร็จเรียบร้อยแล้วระบบจะทำการส่งรายการการสั่งจองไปไห้กับ Process ต่อไป
  3.Process 2.3 คำนวณอัตราภาษีเป็นขั้นตอนการคำนวณหาค้าภาษีของสินค้าทั้งหมดที่ได้ทำการสั่งจอง
-Processจะทำการดึงเอารายระเอียดการจองสินค้าและข้อมูลการสั่งจองสินค้ามาคำนวณหาอัตราภาษีของสินค้า
  4.Process 2.4 ยืนยันการสั่งจองเป็นขั้นตอนของการยืนยันการสั่งจองสินค้าเมื่อลูกค้าได้ทำการสั่งจองเป็นที่เรียบร้อย
-Process จะทำการยืนยันการสั่งจองสินค้าโดย Process จะดึงเอารายระเอียดการสั่งจองสินค้าของลูกค้ามาทำการยืนยัน
  5.Process 2.5 บันทึกข้อมูลเป็นขั้นตอนการบันทึกข้อมูลการสั่งจองทั้งหมด
-Process จะทำการบักข้อมูลการสั่งจองสินค้าทั้งหมดเมื่อลูกค้าได้ทำการยืนยัน แล้ว Process  จะนำข้อมูการสั่งจองสินค้าให้กับผู้ดูแลระบบและส่งรายการสั่งจองที่ลูกค้าได้ทำไว้ให้กับตัวลูกค้าเอง

DFD Level 1 of  Process3 (การรับชำระ)

อธิบาย  DFD Level 1 of  Process 3 (การรับชำระ)
 
  Process  3   การรับชำระเป็นขั้นตอนการรับชำระการสั่งจองสินค้าของลูกค้าว่ามียอดค้างชำระ หรือไม่  มีขั้นตอนการทำงานย่อยภายในทั้งหมด  5  ขั้นตอน หรือ 5  Process  ดังนี้
  1.Process 3.1 ค้นหาข้อมูลเป็นขั้นตอนการค้นหาข้อมูลการจองและข้อของลูกค้า
-Process จะทำการค้นหาข้อมูลโดยการดึงเอาข้อมูลการสั่งจองสินค้าและข้อมูลลูกค้าแล้วส่งไปให้กับProcessต่อไป
  2 .Process 3.2 คำนวณยอดค้างชำระเป็นขั้นตอนการคำนวณหายอดค้างชำระของลูกค้าที่มีอยู่ระบบ
-Process  จะทำการดึงเอาข้อมูลการสั่งจองและข้อมูลรายระเอียดการจองของลูกค้ามาคำนวณหายอดค้างชำระแล้วส่งให้กับลูกค้า
  3. Process 3.3 ประมวลการรับชำระเป็นขั้นตอนการรับชำระเงินจากลูกค้า
     เมื่อลูกค้าทำการชำระเงิน
     -Process จะทำการประมวลการรับชำระเงินแล้วส่งไปให้กับ Processต่อไปนำเนินการต่อ
  4 .Process 3.4 พิมพ์เอกสารเป็นขั้นตอนการการออกใบเสร็จให้กับลูกค้า
-Process จะทำการดึงข้อมูลการรับชำระเงินแล้วออกเป็นเอกสารใบเสร็จให้กับลูกค้า
  5 .Process 3.5 บันทึกข้อมูลการจองเป็นขั้นตอนการบันทึกการจองของลูกค้าเมื่อทำการชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    -Process จะทำการดึงข้อมูลการออกใบเสร็จการรับชำระเงินมาบันทึกไว้


DFD Level 1 of  Process 4(การจ่ายชำระเงิน)

 
อธิบาย  DFD Level 1 of  Process 4 (การรับชำระ)
  Process  4   การรับชำระเป็นขั้นตอนการรับชำระการสั่งจองสินค้าของลูกค้าว่ามียอดค้างชำระ หรือไม่  มีขั้นตอนการทำงานย่อยภายในทั้งหมด  3  ขั้นตอน หรือ 3  Process  ดังนี้
1. Process 4.1 รายการที่จ่ายชำระเงินเป็นขั้นตอนการนำรายการสินคนค้าที่ได้สั่งจองไว้มาให้ลูกค้าได้ดูว่าต้องจ่ายเท่าไร
-Process จะทำการดึงข้อมูลการสั่งจองสินค้ามาทำให้เป็นรายการที่ต้องจ่ายชำระให้กับลูกค้า
2 .Process 4.2 ชำระเงิน
-Process จะทำการดึงข้อมูลการจ่ายชำระเงินของลูกค้าแล้วส่งไปให้กับตัวแทนจำหน่าย
3. Process 4.3  บันทึกข้อมูลเป็นขั้นตอนการบันทึกการจ่ายเงินของลูกค้า
-เมื่อทำการชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Process จะทำการบันทึกข้อมูลแล้วนำข้อมูลไปเก็บไว้ในข้อมูลการจ่ายชำระเงิน

 DFD Level 1 of  Process 5(รายงานการสั่งจอง)
อธิบาย  DFD  LEVEL    1  Of  Process  5
 
Process  5   พิมพ์รายงานมีขั้นตอนการทำงานย่อยภายใน
ทั้งหมด  2  ขั้นตอน  หรือ  2  Process  ดังนี้  
  1.  Process  5.1  ตรวจสอบข้อมูลเป็นขั้นตอนที่ทำการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ
                   Process  ทำการรับข้อมูลจากผู้จัดการแล้ว  Process  ทำการดึงข้อมูลจากแฟ้มข้อมูลสินค้า  แฟ้มข้อมูลลูกค้า  แฟ้มข้อมูลการชำระเงิน  แฟ้มข้อมูลการสั่งซื้อ  มาทำการประมวลผลเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูล
  2.  Process  5.2  พิมพ์เป็นขั้นตอนการพิมพ์รายงาน
                -  Process  ทำการรับข้อมูลจาก  Process  ที่  5.1  มาทำการประมวลผลเพื่อทำการพิมพ์รายงานที่ผู้จัดการต้องการให้กับผู้จัดการ